ประชาสัมพันธ์เทศบาลตำบลสำราญราษฎร์
“การอนุรักษ์ทรัพยากรดิน”
1.การปลูกพืชหมุนเวียน – การปลูกพืชหมุนเวียนแบบปลูกพืชซ้ำๆ ช่วยรักษาคุณภาพดิน หากปลูกพืชชนิดเดียวโดยไม่เปลี่ยนเลยจะทำให้ดินขาดแร่ธาตุและสารอาหารบางชนิด แถมยังทำให้เกิดโรคระบาดในพืชได้ง่ายด้วย เพราะว่าสะสมโรคระบาดในบริเวณนั้น ถ้าหากสลับการปลูกพืชบ่อยๆ จะทำให้ดินแน่นหนาและป้องกันการชะล้างพังทลายของดิน เพิ่มผลผลิตของพืช
2.การปลูกพืชคลุมดิน – เป็นวิธีการยึดดิน ลดแรงปะทะของลม ฝน การปลูกพืชคลุมดินคือการนำพืชที่มีใบหนา มีรากมากและลึกมาปกคลุมดินเป็นเวลานาน เช่น พืชตระกูลถั่ว ไม่เพียงแค่ช่วยยึดดินแล้วแต่ยังช่วยตรึงไนโตรเจนในอากาศ ทำให้ดินมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
3.การบำรุงดินด้วยปุ๋ย – การใส่ปุ๋ยในดินเป็นการปรับปรุงดินให้มีแร่ธาตุ betflik pg เพิ่มสาอาหารในดิน ทำให้ดินระบายน้ำและอากาศได้ดี ปุ๋ยที่ดีควรเป็นปุ๋ยจากธรรมชาติเช่น ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยสด ปุ๋ยคอก ไม่ใช่ปุ๋ยเคมีเพราะจะส่งผลเสียในระยะยาวได้
4.การปลูกพืชแบบสวนผสม – หรือการปลูกพืชแบบวนเกษตรคือการปลูกพืชนานาพรรณเพื่อรักษาสมดุลธาตุอาหารในดิน เก็บความชุ่มชื้นในดิน และช่วยลดการพังทลายของหน้าดิน วิธีการปลูกแบบนี้แบ่งเป็น 3 แบบ คือ การปลูกไม้ยืนต้นคู่กับพืชเกษตร การปลูกไม้ยืนต้นคู่กับพืชอาหารสัตว์พร้อมกับเลี้ยงสัตว์ การปลูกไม้ยืนต้นคู่กับพืชเกษตรและเลี้ยงสัตว์
5.การปลูกพืชแบบขั้นบันได – เป็นการสร้างคันดินจนมีลักษณะเป็นบันไดเพื่อปลูกพืช ช่วยลดความลาดเทของพื้นที่ ลดอัตราการไหลบ่าของน้ำ ลดการพังทลายของหน้าดิน และยังช่วยเก็บกักความชื้นไว้ได้ทำให้ดินมีสภาพโครงสร้างที่เหมาะแก่การปลูกพืช เช่น การทำนาขั้นบันได
6.การเลือกใช้สภาพดินให้เหมาะสมแก่การใช้งาน – ซึ่งการจำแนกดินแบ่งได้ 3 ชนิด คือ ดินทราย ดินร่วน และดินเหนียว ดินแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติและการนำไปใช้งานต่างกัน หากรู้จักเลือกใช้ดินให้เหมาะแก่กิจกรรมจะช่วยรักษาระบบนิเวศและธรรมชาติได้อย่างมีคุณภาพ
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นเพียงวิธีการง่ายๆ ที่ช่วยขจัดปัญหาการเสื่อมโทรมของดิน เมื่อดินดีมีความสมบูรณ์แล้ว ทำให้การทำกิจกรรมบนหน้าดินเป็นไปอย่างเรียบง่าย ตลอดถึงส่งผลสิ่งแวดล้อมระบบนิเวศโดยรอบ เช่น แม่น้ำไม่ตื้นเขินเพราะดินดีช่วยกักเก็บน้ำไว้ได้ ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชนดีและมีความสุข